น้ำดื่มไม่สะอาด เรื่องต้องระวังของน้องแมว

แล้วน้องแมวต้องดื่มน้ำวันละเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม?

เราจะทราบได้อย่างไรว่าน้องแมวแต่ละตัวควรดื่มน้ำในปริมาณเท่าไหร่ต่อวันจึงจะเหมาะสม? ซึ่งบางตัวอาจจะใหญ่ ก็น่าจะต้องการน้ำมากกว่าน้องที่ตัวเล็กกว่า วันนี้เราจะมีตอบข้อสงสัยเหล่านี้กัน

โดยธรรมชาติของน้องแมวแล้วจะมีพฤติกรรมการดื่มน้ำที่ค่อนข้างน้อย น้องแมวจะกินน้ำเฉลี่ยวันละประมาณ 60 มิลลิลิตร ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือพูดให้เห็นภาพชัดๆ ก็คือ น้องแมวหนัก 5 กิโลกรัมจะกินน้ำประมาณวันละ 300 มิลลิลิตร

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและโอกาสที่น้องจะมีการสูญเสียน้ำด้วยเช่นกัน หากมีการสูญเสียน้ำก็อาจจะต้องมีการดื่มน้ำมากขึ้นตาม และหากน้องแมวมีการขาดน้ำ หรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลจ่อสุขภาพร่างกาย และจิตใจของน้อง และที่สำคัญมันก็คงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเหล่าทาสผู้ติดตามน้องด้วย

 

ทำไมน้องแมวชอบดื่มน้ำจากก๊อก?

สงสัยกันบ้างหรือไม่เวลาที่เปิดก๊อกน้ำ หรือสายยาง แมวจึงชอบมาดื่มน้ำจากก๊อก หรือสายยางมากกว่าถ้วยน้ำที่เตรียมไว้ให้ … แท้ที่จริงแล้ว แมวอาจเกิดจากความไม่ไว้วางใจของแมวต่อน้ำในภาชนะหรือถ้วยที่เตรียมไว้ให้ หรือนั่นก็คือ สัญชาตญาณแมวจะคิดว่า น้ำที่อยู่นิ่งๆ เป็นน้ำที่ “ไม่ปลอดภัย”

แล้วมันจริงหรือไม่ที่น้ำในถ้วยนิ่งๆ มันไม่ปลอดภัย? จากการศึกษาเราพบว่าเมื่อเราทิ้งน้ำไว้เฉยๆ ซึ่งอาจจะมีน้องแมวมาดื่มบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งจะทำให้แบคทีเรียจากน้องแมว ลงไปในน้ำนั้น รวมถึงที่มีในอากาศเองด้วย … แต่หลังจากนั้นแบคทีเรียเหล่านี้ก็จะเติบโตและเพิ่มจำนวนมากขึ้น คุณคิดว่าหลังจากผ่านไป 8 ชั่วโมงมันจะมีจำนวนมากขึ้นขนาดไหน? 2 เท่า 5 เท่า หรือ 10 เท่า …. คำตอบจากการวิจัยพบว่า หลังจาก 8 ชั่วโมง จำนวนเชื้อโรคนั้นเพิ่มขึ้นกว่า 10⁹/มล. (1 พันล้าน/มล.) !! และน้องแมวคงคิดถูก มันจึงชอบที่จะไปดื่มน้ำจากก๊อกน้ำประปา ซึ่งก็มีคำถามใหม่ตามมา คือ….

น้องแมว ดื่มน้ำปะปาได้หรือไม่?

อีกคำถามยอดฮิต คือ น้ำประปาตามบ้านของเหล่าทาส สามารถนำมาให้น้องแมวดื่มกันได้หรือไม่? ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงก็คงดื่มได้ … แต่ที่รู้กันคือในน้ำประปานั้นมีคลอรีน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของน้องแมว อาทิเช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งก็จะทำให้เหล่าข้าทาสบริวารต้องคอยปวดหัว และพากันไปหาหมอกัน … แล้วอย่างนี้จะให้ดื่มน้ำจากไหนดีละ? ต้องซื้อ น้ำดื่มเฉพาะสำหรับน้อง ก็คงเปลืองกันใช่เรื่อง วิธีหนึ่งที่ใช้กันก็คือ การใช้ผ่านเครื่องกรองน้ำนั่นเอง เช่นเดียวกับเหล่าทาสเอง ก็มีการใช้เครื่องกรองน้ำเพื่อดื่มกัน

เช่นเดียวกับเหล่าทาสอนุษย์ ที่เวลาเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ ก็อยากได้น้ำดื่มที่สะอาด และมีคุณภาพมากพอ เพื่อมาใช้กรองน้ำให้มีความสะอาดและดีต่อสุขภาพ น้องแมวเองก็เช่นกัน ก็ควรเลือกเครื่องกรองที่สามารถกรองสิ่งสกปรก รวมถึงการขจัดคลอรีนในน้ำประปา หรือเชื้อโรคต่างๆ ด้วย

น้ำสำคัญแบบนี้ น้องแมวจะดื่มอะไรดีละ?

เมื่อการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมก็สำคัญ และน้ำก็ควรจะสะอาดด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีของน้อง ทางเลือกหนึ่งก็คือ การใช้ “น้ำพุแมว” หรือเครื่องกรองน้ำดื่มสำหรับแมว ที่มีเทคโนโลยีการกรองน้ำให้สะอาด ผ่านระบบการกรองที่มีประสิทธิภาพ และควรช่วยกระตุ้นให้น้องดื่มน้ำให้มากขึ้น

PAWOOF เราได้คำนึงคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับน้อง ด้วยระบบการกรองน้ำดื่มถึง 5 ชั้น โดยให้มีความใกล้เคียงกับการกรองน้ำดื่มเช่นเดียวกับมนุษย์ ซึ่งหัวใจหลักของ “น้ำพุแมว” ก็คือระบบของไส้กรอง ซึ่ง PAWOOF เองได้ใส่ใจและให้ความสำคุญมากในจุดนี้ ทำให้ไส้กรองของเรามีขนาดค่อนข้างใหญ่ เพราะมีมากถึง 5 ชั้น อันได้แก่

1. ไยตาข่ายไนล่อนแบบละเอียด – เพื่อกรองสิ่งสกปรกและปนเปื้อนอนุภาคขนาดเล็กต่างๆ ที่อยู่ในน้ำ
2. แอคติเวทคาร์บอนจากกะลามะพร้าว – เพื่อกรองโลหะหนัก คลอรีน และกลิ่นเหม็นที่ไม่พึงประสงค์
3. หินแร่ธาตุ – เพื่อเสริมแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ และดีต่อสุขภาพของน้อง
4. PUROLITE Ion Exchange Resin – เพื่อปรับสภาพความกระด้างของน้ำ สาหตุหนึ่งของคราบหินผูน และการทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะของน้องได้
5. สูตรซิลเวอร์อิออน – ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่อยู่ในน้ำได้มากถึง 99.9%

และไม่ใช่เพียงแค่ประโยชน์ที่น้องแมวจะได้รับจากน้ำที่สะอาดแล้วเท่านั้น ตัววัสดุทั้งหมดของเราก็ยังปลอดสาร BPA เกรดเดียวกับของเล่นของเด็กๆ จึงมั่นใจในความปลอดภัยได้

PAWOOF เรายังคำนึงถึงเหล่าทาสผู้ดูแลอีกด้วย โดยระบบการกรองน้ำของ PAWOOF ใช้พลังงานที่ต่ำมากเพียง 0.55W ซึ่งเทียบเป็นค่าไฟฟ้า ก็เพียง 20 บาท/ปี และยังเสียงเงียบมาก ซึ่งเสียงที่ได้ยินจะเป็นการไหลของน้ำมากกว่า

และหากซื้อสินค้า PAWOOF แล้วลงทะเบียนกับเราจะเพิ่มการรับประกัน 1 ปีทันที ให้กับตัวปั้มน้ำ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษต่างๆ ได้อีกด้วย